ประโยค Complex Sentence | Compound Sentence (อเนกัตถประโยค) | English For Fun

ประโยคความเดียว (Simple sentence) Simple sentence เป็นประโยคที่สื่อความหมายเดียว ประกอบด้วยภาคประธาน 1 ส่วน และภาคแสดง 1 ส่วน หรือประโยคที่มีประโยคอิสระ (Independent clause) เพียงประโยคเดียว ตัวอย่างการแต่งประโยคภาษาอังกฤษ Patty lives with her family in a big house. แปลว่า แพทตี้อาศัยอยู่กับครอบครัวของหล่อนในบ้านหลังใหญ่ I hate getting up early in the morning. แปลว่า ฉันเกลียดการตื่นนอนแต่เช้า จากตัวอย่างประโยคด้านบน จะเห็นว่าโครงสร้างประโยค Simple sentence จะมีใจความสำคัญเพียงใจความเดียว 2. ประโยคความรวม (Compound sentence) Compound sentence คือประโยคอิสระตั้งแต่ 2 ประโยคขึ้นไป มารวมกันโดยแต่ละประโยคจะต้องมีความหมายที่สัมพันธ์กัน และมีความสำคัญเท่าเทียมกัน ตลอดจนมีการเชื่อมประโยคอิสระแต่ละประโยคเข้าด้วยกันเป็นประโยคเดียว Love is not everything; you can't rely on anyone. แปลว่า ความรักไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่าง คุณไม่สามารถเชื่อใจใครได้ จากตัวอย่างประโยค จะเห็นได้ว่า Compound sentence ประกอบด้วยประโยค 2 ประโยค ที่มีความหมายสมบูรณ์ในตัวเอง มีทั้งประธานและกริยาเป็นของตัวเอง โดยมีการเชื่อมประโยค ซึ่งอาจใช้ Coordinating conjunction, Semi-Colon หรือ Conjunctive adverb 3.

Starters

ประโยค complex sentence worksheets

การเรียนรู้ภาษาอังกฤษ: Complex Sentence

นี้คือบ้านที่ผมได้ซื้อไว้เมื่อปีที่แล้ว ประโยคนี้แยกออกได้ 2 ประโยคคือ This is house เป็นประโยคหนึ่งคือ Main Clause และ that I bought last year เป็นอีกประโยคหนึ่งคือ Subordinate Clause เมื่อประโยคเล็กมารวมอยู่ในประโยคเดียวกันเช่นนี้ จึงทำให้ประโยคข้างบนนี้กลายเป็นประโยค Complex Sentence คือ สังกรประโยค ตัวอย่างเช่น The student who is diligent will pass the exam. นักศึกษาผู้ซึ่งมีความขยัน จะสอบไล่ได้ นี่คือวิดีโอ เรื่อง Complex Sentence นะคะ

Structure

ประโยค complex sentence definition

Example

Complex sentence Complex sentence แปลว่าสังกรประโยค หรือ ประโยคที่มีเนื้อหาซ้อน หมายถึงประโยคใหญ่ที่สุดที่ประกอบขึ้นมาจากประโยคเล็ก 2ประโยค ซึ่งใน2ประโยคนี้มีความสำคัญไม่เท่ากันนั่นคือประโยคหนึ่งเรียกว่า main clause หรือ principal (ประโยคหลัง)ส่วนอีกประโยคหนึ่งเรียกว่า subordinate clause (ประโยคอาศัย) เป็นประโยคที่ต้องอาศัยประโยค main clause เสียก่อนแล้วจึงได้เนื้อหาสมบูรณ์ ซึ่งก็แน่ละหากแยกกันอ่านที่ละประโยค ประโยค main clause จะอ่านได้เนื้อความสมบูรณ์ในตัวของมันเอง ส่วนประโยค subordinate clause จะอ่านไม่ได้ความหมายเลย ตัวอย่าง -This is the house that jack bought last year. นี้คือบ้านขอแจ๊คได้ซื้อเอาไว้เมื่อปีที่แล้ว ข้อความนี้แยกออกได้เป็น2ประโยคคือ this is the house เป็นประโยค main clause ส่วน that jack bought last year เป็น subordinate clause จะเห็นได้ว่าเมื่อประโยคเล็ก2ประโยคมารวมอยู่ด้วยกัน จึงทำให้ประโยคที่กล่าวมานี้กลายเป็น Complex sentence ขึ้นมาทันที โดยใช้คำ main clause กับ subordinate conjunction เป็นตัวเชื่อมระหว่างประโยค คือ 1. ใช้คำเชื่อมหรือคำเชื่อมแฝง (subordinate conjunction) ได้แก่ If as if since because that Whether lest as before after White till until though although Unless so that than provided in order that Provided that notwithstanding that etc เช่น -He is unhappy because he is very poor.

Definition

  1. ประโยค complex sentence structure
  2. ประโยค complex sentence grammar
  3. ประโยค complex sentence exercises
  4. Though, then, yet ท้ายประโยค ใช้อย่างไร | TrueID In-Trend
  5. ประโยค complex sentence generator

เกร็ดความรู้เกี่ยวกับภาษาอังกฤษ: Complex Sentence

นี้คือบ้านที่ผมได้ซื้อไว้เมื่อปีที่แล้ว ประโยคนี้แยกออกได้ 2 ประโยคคือ This is house เป็นประโยคหนึ่งคือ Main Clause และ that I bought last year เป็นอีกประโยคหนึ่งคือ Subordinate Clause เมื่อประโยคเล็กมารวมอยู่ในประโยคเดียวกันเช่นนี้ จึงทำให้ประโยคข้างบนนี้กลายเป็นประโยค Complex Sentence คือ สังกรประโยค ตัวอย่างเช่น The student who is diligent will pass the exam. นักศึกษาผู้ซึ่งมีความขยัน จะสอบไล่ได้ ประโยคนี้แยกออกได้ 2 ประโยคเล็กคือ The student……… pass the exam เป็น Main Clause หรือ มุขยประโยค ส่วนคำว่า who is diligent เป็นประโยค Subordinate Clause คือ อนุประโยคดังนั้นเมื่อ 2 ประโยคเล็กนี้มารวมอยู่ด้วยกัน จึงทำประโยคนี้เป็น Complex Sentence หรือสังกรประโยคไป แม้น้อยอื่นก็ให้เทียบตามนี้

เขาไม่มีความสุข เพราะเขายากจนมาก -She said that she would come back soon. หล่อนพูดว่า หล่อนจะกลับมาเร็วๆนี้ -Danai works as if he were a manchine. ดนัยทำงานราวกับว่าเขาเป็นเครื่องจักร -Wait here until I come back. รออยู่ที่นี้จนกว่าผมจะกลับมา 2. ใช้ประพันธ์สรรพนาม (relative pronoun) เป็นคำเชื่อมได้ ได้แก่คำต่อไปนี้คือ Who whom whose which that As but what of which where ตัวอย่าง -He is the first man who has won this kind of prize. เขาเป็นผู้ชายคนแรกที่ได้รับรางวัลนี้ -She made the same mistakes as her sister did. หล่อนได้ทำผิดอย่างเดียวกันกับที่น้องสาวของเธอทำ -The man who came here this morning is my uncle. ผู้ชายที่มาที่นี่เมื่อเช้านี้เป็นลุงของผม -There was no one but admired him ไม่มีผู้ใดที่จะไม่ยกย่องเขา -The tree of which the leaves are yellow is dying ต้นไม่ที่มีใบเหลือง (แสดงว่า) กำลังจะตาย (ประโยคข้างบนนี้ถือว่าเป็น complex sentence เพราะมี who but of which ไปเชื่อม) 3. ใช้สัมพันธ์วิเศษ (relative adverd) เป็นคำเชื่อมได้ แก่คำต่อไปนี้คือ:- When whenever where why wherever how ตัวอย่าง - I don know when she arrives here.

ประโยค complex sentence structure
  1. บัตร คำ ภาษา ไทย voathai.com
  2. กันชน หน้า กระบะ
  3. 36 ความหมาย
  4. Call of duty iiii ps4
  5. ลังโฟม แม็คโคร
  6. บริษัท ที เอ็น บี ซี จํากัด
  7. แอ ป เทรด forex
  8. ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล 1 กันยายน 2564
  9. โฆษณา ไมโล